การทดลองใช้กระเจี๊ยบแดงในการตรวจคุณภาพน้ำบาดาลในการเรียนรู้เคมีสภาวะแวดล้อม ในรายวิชาเคมีทั่วไป 2 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
##plugins.themes.bootstrap3.article.main##
Abstract
การวิจัยเรื่อง การทดลองใช้กระเจี๊ยบแดงในการตรวจคุณภาพน้ำบาดาลในการเรียนรู้เคมีสภาวะแวดล้อม ในรายวิชาเคมีทั่วไป 2 ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการใช้กระเจี๊ยบแดงในการตรวจคุณภาพน้ำบาดาล และปรียบเทียบผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้กระเจี๊ยบแดงในการตรวจคุณภาพน้ำบาดาลการตรวจวัดและวิเคราะห์ปริมาณเฟอร์ริกไอออนในน้ำบาดาล เนื่องจากแอนโทรไซยานินมีความไวในการเปลี่ยนสีเมื่อทำปฏิกิริยากับไอออนเหล็ก นอกจากนี้ การประยุกต์ใช้สมาร์ทโฟนในการตรวจวัดสารเคมีต่าง ๆ เป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการถ่ายภาพและประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว สมาร์ทโฟนสามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์สีของสารละลายที่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณเฟอร์ริกไอออน ทำให้กระบวนการตรวจวัดง่ายขึ้นและสามารถทำได้ในสถานที่ต่าง ๆการศึกษานี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงทดลอง โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาวิชาเคมีทั่วไป 2 จำนวน 30 คน ขั้นตอนการทดลองประกอบด้วยการเตรียมตัวอย่างน้ำบาดาลที่มีการเติมเฟอร์ริกไอออนในความเข้มข้นต่าง ๆ (0.5, 1.0, 2.0, 5.0 ppm) การสกัดแอนโทรไซยานินจากกระเจี๊ยบแดงโดยการต้มในน้ำร้อน การผสมสารสกัดแอนโทรไซยานินกับตัวอย่างน้ำบาดาล และการวัดผลโดยใช้สมาร์ทโฟนในการวัดค่าความเข้มสีของสารละลาย และใช้เครื่องยูวี-วิสิเบิลสเปกโทรโฟโตมิเตอร์ในการวัดการดูดกลืนแสงของสารละลาย นอกจากนี้ ยังมีการประเมินผลการเรียนโดยการทดสอบความรู้ก่อนและหลังการทดลองเพื่อวัดผลการเรียนรู้ของนักศึกษา
ผลการวิจัยพบว่า การใช้แอนโทรไซยานินจากกระเจี๊ยบแดงร่วมกับสมาร์ทโฟนสามารถวัดค่าความเข้มสีที่มีความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของเฟอร์ริกไอออนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความสัมพันธ์เชิงเส้นระหว่างค่าความเข้มสีและความเข้มข้นของเฟอร์ริกไอออน ผลลัพธ์จากสมาร์ทโฟนมีความสัมพันธ์สูงกับค่าการดูดกลืนแสงจากเครื่องยูวี-วิสิเบิลสเปกโทรโฟโตมิเตอร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวิธีการที่นำเสนอสามารถใช้งานได้จริงในสถานการณ์การสอน ในด้านผลการเรียนรู้ของนักศึกษา พบว่าคะแนนสอบหลังเรียน (ค่าเฉลี่ย 25.60 คะแนน) มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนก่อนเรียน (ค่าเฉลี่ย 5.23 คะแนน) แสดงให้เห็นว่าการทดลองนี้ช่วยเพิ่มความเข้าใจและความสนใจในนักศึกษาต่อเนื้อหาเคมีที่เกี่ยวข้องกับการวัดและการวิเคราะห์สารเคมีในสิ่งแวดล้อมการวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการใช้แอนโทรไซยานินจากกระเจี๊ยบแดงและสมาร์ทโฟนในการตรวจวัดเฟอร์ริกไอออนในน้ำบาดาล ซึ่งเป็นวิธีการที่ประหยัด สะดวก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือวัดช่วยลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำในห้องปฏิบัติการ ทำให้การเรียนการสอนเคมีสภาวะแวดล้อมมีความเข้าถึงง่ายขึ้น นักเรียนสามารถทดลองและเห็นผลการวิเคราะห์ได้ทันที
##plugins.themes.bootstrap3.article.details##
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและเผยแผ่ในวารสารฉบับนี้ เป็นทัศนคติและข้อคิดเห็นส่วนบุคคลของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่ถือว่าเป็นทัศนะคติและความรับผิดชอบ
ของบรรณาธิการ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสังคมศาสตร์บูรณาการ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสังคมศาสตร์บูรณาการ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสารสังคมศาสตร์บูรณาการ ก่อนเท่านั้น
References
รวิวรรณ วัฑฒนายน, ซูรายา สะตาปอ, บิสมี ยามา, สาลูมา สมานหมาน, & ปิยาภรณ์ วังศิริกุล. (2017). การ ตรวจวัดไอออน เหล็กโดยใช้แอนโทไซยานินจากกระเจี๊ยบแดง. Princess of Naradhiwas University Journal, 9(2), 97-103.
Anastas, P., & Eghbali, N. (2010). Green chemistry: principles and practice. Chemical Society Reviews, 39(1), 301-312.
Baird, C., & Cann, M. (2012). Environmental chemistry. W.H. Freeman.
Castañeda-Ovando, A., Pacheco-Hernández, M. D. L., Páez-Hernández, M. E., Rodríguez, J. A., & Galán-Vidal, C. A. (2009). Chemical studies of anthocyanins: A review. Food Chemistry, 113(4), 859-871.
Chanchang, J. (2020). Integrated Teaching and Learning Management for the Development of Higher Order Thinking Skills: Learning to Practice (การจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเพื่อ พัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง: การเรียนรู้สู่การปฏิบัติจริง). Journal of Education Studies, 48(3), 78-89.
Conrad, C. C., & Hilchey, K. G. (2011). A review of citizen science and community-based environmental monitoring: issues and opportunities. Environmental Monitoring and Assessment, 176(1), 273-291.
Freeman, S., Eddy, S. L., McDonough, M., Smith, M. K., Okoroafor, N., Jordt, H., & Wenderoth, M. P. (2014). Active learning increases student performance in science, engineering, and mathematics. Proceedings of the National Academy of Sciences, 111(23), 8410-8415.
Inai, K., & Phonchamni, S. (2023). การเสริมสร้างศักยภาพครูเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับ นักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน. Rajapark Journal, 17(52), 128-142.
Intaravicha, N. (2020). ประสิทธิภาพการวัดค่าการ ดูดกลืนแสง ด้วยโปรแกรม Shoebox Spectrophotometer ที่ทำงานบ สมาร์ทโฟนในการวัดปริมาณฟอสฟอรัสในดินโดยวิธีทำให้เกิดสีด้วยโมลิบดินัมบลู. Thai Agricultural Research Journal, 38(2), 150-160.
Sanitklang, S., Boonsom, S., & Na-Ek, N. (2023). การเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวิธีการเติมคลอรีนในการผลิตน้ำบริโภค. Journal of Health Science of Thailand, 32(6), 1076-1083.
Yetisen, A. K., Akram, M. S., & Lowe, C. R. (2013). Paper-based microfluidic point-of-care diagnostic devices. Lab on a Chip, 13(12), 2210-2251.